งานวิจัยนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ (1) ศึกษาระดับความเหนื่อยหน่ายในการทำงานของพยาบาลที่ปฏิบัติงานในกลุ่มงานการพยาบาล ในด้านความอ่อนล้าทางอารมณ์ การสูญเสียความสัมพันธ์ส่วนบุคคล และความรู้สึกไม่ประสบผลสำเร็จ โดยศึกษาจากปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยเกี่ยวกับงาน (2) ศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเหนื่อยหน่ายในการทำงานของพยาบาลที่ปฏิบัติงานในกลุ่มงานการพยาบาลและ (3) สร้างสมการพยากรณ์ความเหนื่อยหน่ายในการทำงานของพยาบาลที่ปฏิบัติงานในกลุ่มงานการพยาบาล
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ พยาบาลที่ปฏิบัติงานในกลุ่มงานการพยาบาล โรงพยาบาลชุมชนสาธารณสุขเขต 6 จำนวน 321 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามจำนวน 1 ฉบับ แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ แบบสอบถามข้อมูลปัจจัยส่วนบุคคล แบบสอบถามข้อมูลปัจจัยเกี่ยวกับงาน และแบบสอบถามวัดความเหนื่อยหน่าย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่าย และการวิเคราะห์ การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน
ผลการวิจัยพบว่า
1. พยาบาลที่ปฏิบัติงานในกลุ่มงานการพยาบาล มีความเหนื่อยหน่ายในการทำงานโดยรวม อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีความอ่อนล้าทางอารมณ์ อยู่ในระดับปานกลาง การสูญเสียความสัมพันธ์ส่วนบุคคล อยู่ในระดับต่ำ และความรู้สึกไม่ประสบความสำเร็จ อยู่ในระดับ ปานกลาง
2. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความเหนื่อยหน่ายในการทำงานของพยาบาลที่ปฏิบัติงานในกลุ่มงานพยาบาล มีดังนี้
2.1 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ได้แก่ ความเครียดจากลักษณะงาน และสถานภาพสมรส
2.2 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ทางลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ได้แก่ สัมพันธภาพระหว่างบุคคล ประสบการณ์ในการทำงาน อายุ ระดับรายได้ และภาวะผู้นำของผู้บริหาร
2.3 ปัจจัยที่ไม่มีความสัมพันธ์ ได้แก่ ตำแหน่งและระดับการศึกษา
3. ตัวพยากรณ์ที่ดีในการพยากรณ์ความเหนื่อยหน่ายในการทำงานของพยาบาลที่ปฏิบัติงานในกลุ่มงานการพยาบาล ได้แก่ สัมพันธภาพระหว่างบุคคล (X8) ความเครียดจากลักษณะงาน (X7) ประสบการณ์ในการทำงาน (X4) อายุ (X2) สถานภาพสมรส (X3) ตัวพยากรณ์ชุดนี้มีอำนาจในการพยากรณ์ร้อยละ 55.40 โดยสมการพยากรณ์ในรูปคะแนนดิบมีดังนี้ QUOTE = 3.219 - .738 X8 + .592 X7 - .197 X4 + .195 X3 + .091 X2
และในรูปคะแนนมาตรฐานมีดังนี้
QUOTE = - .4372 Z8 + .3217 Z7 - .2117 Z4 + .166 Z3 + .083 Z2
|