การปฏิบัติงานของพยาบาลประจำการให้มีคุณภาพได้นั้น นอกจากจะอาศัยปัจจัยภายนอกแล้วยังต้องมีปัจจัยภายในร่วมด้วย โดยเฉพาะการใช้อำนาจความเชี่ยวชาญ และมีความเชื่ออำนาจภายในตนอย่างเหมาะสม ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดความพึงพอใจในงานที่ทำและ จะไม่ทำให้เกิดความ วิตกกังวลในการทำงาน ซึ่งจะทำให้พยาบาลประจำการ สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับของผู้บังคับบัญชา ผู้ร่วมงาน และผู้รับบริการ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอำนาจ ความเชี่ยวชาญ ความเชื่ออำนาจภายในตน ความพึงพอใจในงานและความวิตกกังวลของพยาบาลประจำการโรงพยาบาลมาหาราชนครราชสีมา 2) ศึกษาตัวพยากรณ์ คือ อำนาจความเชี่ยวชาญ ความเชื่ออำนาจภายในตน ความพึงพอใจในงานต่อความวิตกกังวล ของพยาบาลประจำการ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา 3) สร้างสมาการพยากรณ์ คือ อำนาจความเชี่ยวชาญ ความเชื่ออำนาจภายในตน ความพึงพอใจในงานต่อความวิตกกังวล ของพยาบาลประจำการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ พยาบาลประจำการจำนวน 123 คนซึ่งได้มาโดยสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบวัดการแสดงออกถึงการใช้อำนาจความเชี่ยวชาญของพยาบาลประจำการ จำนวน 26 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.90 ความเชื่ออำนาจภายในตนเองของพยาบาลวิชาชีพ จำนวน 20 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น ท่ากับ 0.90 ความพึงพอใจในงาน จำนวน 25 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.89ความวิตกกังวลในการทำงานของพยาบาลวิชาชีพ จำนวน 25 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.89 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.94 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สหสัมพันธ์อย่างง่าย (Simple Correlation) การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบเป็นขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression Analysis)
ผลการศึกษาปรากฏดังนี้
1. ความวิตกกังวลในการทำงานของพยาบาลประจำการ มีความสัมพันธ์ทางลบกับอำนาจความเชี่ยวชาญ ความเชื่ออำนาจภายในตนและความพึงพอใจในงานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (r) เท่ากับ -0.181, -0.165 และ -0.180 ตามลำดับ
ความพึงพอใจในงานมีความสัมพันธ์ทางบวกกับอำนาจความเชี่ยวชาญ และความเชื่ออำนาจภายในตน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (r) เท่ากับ 0.749 และ 0.581 ตามลำดับ
2. การสร้างสมการพยากรณ์ พบว่า ตัวแปรที่สามารถพยากรณ์ความวิตกกังวลในการปฏิบัติงานของพยาบาลประจำการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา คือ อำนาจความเชี่ยวชาญมีค่าสัมประสิทธิ์การพยากรณ์ มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์พหุคูณ (R) เท่ากับ0.181 มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ค่าสัมประสิทธิ์การพยาการณ์ (R2) เท่ากับ 0.033 นั้นคือ มีอำนาจในการพยากรณ์ ร้อยละ 3.3
3. สมการพยากรณ์ความวิตกกังวลในการทำงานในรูปของคะแนนดิบ และคะแนนมาตรฐาน ปรากฏดังนี้
สมการในรูปของคะแนนดิบ
QUOTE 79.9 – 0.23 อำนาจความเชี่ยวชาญ
สมการในรูปของคะแนนมาตรฐาน
QUOTE – 0.181 อำนาจความเชี่ยวชาญ (EP)
จากการศึกษาค้นคว้าฉบับนี้สามารถนำผลการศึกษา ไปประยุกต์ใช้ในการสนับสนุนให้พยาบาลวิชาชีพใช้อำนาจความเชี่ยวชาญ และสร้างความเชื่ออำนาจภายในตน ในการปฏิบัติงาน โดยการแสวงหารูปแบบที่เหมะสมเพื่อเพิ่มศักยภาพของพยาบาลประจำการ ให้โอกาสในการแสดความรู้ความสามารถได้อย่างอิสระตามของเขตวิชาชีพ ข้อเสนอแนะในการศึกษาค้นคว้าครั้งต่อไป คือ การศึกษาหาตัวพยากรณ์อื่นๆ ที่สามารถพยากรณ์ความวิตกกังวล ในการทำงานของพยาบาลประจำการหรือทำการศึกษาในพยาบาลที่จบใหม่ เพื่อพัฒนาการสร้างความเชื่ออำนาจภายในตนและพัฒนาการรับรู้อำนาจความเชี่ยวชาญ เพื่อพัฒนาศักยภาพในการทำงานของพยาบาลประจำการ
|