การบริการที่มีประสิทธิภาพ ได้มาตรฐาน สนองตอบต่อความต้องการของผู้รับบริการมากที่สุด อันจะนำไปสู่ความพึงพอใจต่อการรับบริการทางการแพทย์ ภายใต้โครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และช่วยลดปัญหาข้อขัดแย้งระหว่างผู้ให้บริการกับผู้รับบริการได้ การศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบเจตคติ ความคาดหวัง ความพึงพอใจ และความรู้ความเข้าใจสิทธิประโยชน์ของผู้รับบริการ ในโครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โรงพยาบาลชุมชน โซน 4 จังหวัดอุดรธานี เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม กลุ่มตัวอย่างได้จากการสุ่มอย่างง่าย ซึ่งเป็นผู้มารับบริการในแผนกผู้ป่วยนอกและแผนกผู้ป่วยใน โรงพยาบาลบ้านผือ โรงพยาบาลน้ำโสม โรงพยาบาลนายูง และโรงพยาบาลกุดจับ จำนวน 591 ราย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมุติฐานใช้ t – test และ F – test (ANOVA)
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. ผู้รับบริการมีเจตคติ และความรู้ความเข้าใจสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับการรับบริการในโครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนด้านความคาดหวังและความพึงพอใจ ผู้รับบริการมีอยู่ในระดับมาก
2. ผู้รับบริการเพศชายมีความคาดหวังและความพึงพอใจต่อการรับบริการในโครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามากกว่า แต่มีความรู้ความเข้าใจสิทธิประโยชน์น้อยกว่าผู้รับบริการเพศหญิงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่ผู้รับบริการทั้ง 2 เพศมีเจตคติไม่แตกต่างกัน
3. ผู้รับบริการที่สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาหรือต่ำกว่ามีความพึงพอใจต่อการรับบริการในโครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามากกว่าผู้รับบริการที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่ผู้รับบริการที่มีระดับการศึกษาต่างกันมีเจตคติ ความคาดหวัง และความรู้ความเข้าใจในสิทธิประโยชน์ไม่แตกต่างกัน
4. ผู้รับบริการแผนกผู้ป่วยในมีความคาดหวัง และความพึงพอใจต่อการรับบริการในโครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามากกว่า แต่มีเจตคติน้อยกว่า ผู้รับบริการแผนกผู้ป่วยนอกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่ผู้รับบริการทั้ง 2 แผนกมีความรู้ความเข้าใจสิทธิประโยชน์ไม่แตกต่างกัน
5. ผู้รับบริการที่มีอายุ ถิ่นที่อยู่อาศัย ประสบการณ์การรับบริการ และประเภทบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าต่างกัน มีเจตคติ ความคาดหวัง ความพึงพอใจ และมีความรู้ความเข้าใจสิทธิประโยชน์เกี่ยวกับการรับบริการในโครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ไม่แตกต่างกัน
โดยสรุปผู้รับบริการมีเจตคติ และความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการรับบริการในโครงสร้างหลักประกันสุขภาพอยู่ในระดับปานกลาง แต่มีด้านความคาดหวัง และความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ซึ่งจากข้อสนเทศที่ได้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการนำมาใช้เป็นแนวทาง ในการปรับปรุง พัฒนาคุณภาพการบริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการและที่สำคัญ เพื่อให้ผู้รับบริการมีเจตคติที่ดี มีความพึงพอใจและมีความรู้ความเข้าใจสิทธิประโยชน์ในการรับริการ ภายใต้โครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามากที่สุด
|