การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์
เพื่อศึกษาสมรรถนะในตน
ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงและความสามารถในการเจรจาต่อรองของหัวหน้าหอผู้ป่วย ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง สมรรถนะในตน ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับความสามารถในการเจรจาต่อรองของหัวหน้าหอผู้ป่วย
โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงกลาโหม ทำการศึกษาในหัวหน้าหอผู้ป่วย
จำนวน 174 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล
แบบสอบถามสมรรถนะในตน
แบบสอบถามภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงและแบบวัดความสามารถในการเจรจาต่อรองผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาและความเที่ยงแล้ว
มีค่าความเที่ยงเท่ากับ .96 , .96 และ .71 ตามลำดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ
ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. ค่าเฉลี่ยสมรรถนะในตนของหัวหน้าหอผู้ป่วย โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงกลาโหมอยู่ในระดับสูง
(
= 4.03)
2.
ค่าเฉลี่ยภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของหัวหน้าหอผู้ป่วยโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงกลาโหมอยู่ในระดับสูง
(
= 4.35)
3.
ค่าเฉลี่ยความสามารถในการเจรจาต่อรองของหัวหน้าหอผู้ป่วย
โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงกลาโหมอยู่ในระดับปานกลาง (
= 3.19)
4.
สมรรถนะในตนและภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง
ต่างก็ไม่มีความสัมพันธ์กับความสามารถในการเจรจาต่อรองของหัวหน้าหอผู้ป่วย
โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงกลาโหม
|