Normal
0
false
false
false
EN-US
X-NONE
TH
MicrosoftInternetExplorer4
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ
มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค สาเหตุรากเหง้าของปัญหา
และหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการประสานงาน
เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาใช้ประโยชน์ในการพัฒนารูปแบบการประสานงานการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ สำหรับนักศึกษาพยาบาล
ซึ่งรูปแบบที่ได้จะมีลักษณะเป็นรูปแบบการประสานงานแบบมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน
หมายถึงการที่ผู้บริหารเปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบิตงานมีส่วนร่วมในการบริหารงาน
โดยการค้นหาปัญหา อุปสรรค สาเหตุรากเหง้าของปัญหา
จากนั้นร่วมกันกำหนดปัญหาที่สำคัญ และต้องแก้ไขเป็นอันดับแรก แล้วร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหานั้น นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมในทุกระยะ คือ ระยะก่อน
ระหว่าง
และหลังการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ
โดยใช้กรอบแนวคิดทฤษฎีการบริหารงานของกูลิค และเออร์วิค (Luther Gulick
and Lyndall Urwich, 1973) และการบริหารงานแบบมีส่วนร่วม ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง คือ
บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการประสานงานการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ
เป็นกลุ่มตัวอย่างที่เลือกแบบเจาะจง จากฝ่ายการศึกษา คือ ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติจากวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี
อุดรธานี
ที่มีประสบการณ์การทำงานไม่น้อยกว่า 5 ปี จำนวน 14 คน และฝ่ายบริการพยาบาล คือ
ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติจากโรงพยาบาลอุดรธานี ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรครูคลินิก
จำนวน 37 คน รวม 51 คน
ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการประชุมเชิงปฏิบัติการ
2 ครั้ง ครั้งที่ 1 การหาปัญหา อุปสรรค
สาเหตุรากเหง้า
และการหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการประสานงาน ผู้เข้าประชุม
คือกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด เพื่อให้ได้ข้อมูลจากบุคคลที่มีความรู้ความสามารถด้านการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ
และสามารถแสดงความคิดเห็นในเรื่องการประสานงานการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติได้อย่างครอบคลุม
รวมทั้งเป็นการบริหารงานอย่างมีส่วนร่วม ส่วนการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งที่
2
การพิจารณาร่างรูปแบบการประสานงานการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ
ผู้เข้าประชุมคือ ผู้บริหารระดับสูง และระดับกลาง จากฝ่ายการศึกษ จำนวน 7 คน
และผู้บริหารระดับสูงจากฝ่ายบริการพยาบาล จำนวน 15 คน รวม 22 คน เพื่อให้ได้ข้อมูลในระดับการบริหาร
ที่ต้องตัดสินใจในด้านนโยบายและแผน
ในการประชุมเชิงปฏิบัติการทั้งสองครั้ง
ผู้ศึกษาดำเนินการคละกลุ่มตัวอย่าง ทั้งฝ่ายการศึกษาและฝ่ายบริการพยาบาลเข้าด้วยกัน
ซึ่งกลุ่มตัวอย่างจะมีอิสระในการแสดงความคิดเห็นของตนเอง
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ
การประชุมครั้งที่ 1 ใช้กระบวนการกลุ่มโนมินอล
และคำถามปลายเปิด
ส่วนการประชุมครั้งที่ 2 ใช้วิธีการสัมมนา
วิเคราะห์ข้อมูลและสร้างข้อสรุปด้วยวิธีการแบบอุปนัย
โดยจำแนกตามความสัมพันธ์ของกลุ่มคำ ปรากฎผลศึกษาดังนี้
ผลการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งที่
1 ปัญหา อุปสรรค สาเหตุรากเหง้า
และแนวทางแก้ไขปัญหาการประสานงาน
1.
ระยะก่อนการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ
พบส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประสานงาน 7 ด้าน คือ การวางแผน การจัดองค์การ
การจัดบุคลากร การอำนวยการ การประสานงาน
การรายงาน และการงบประมาณ โดยการประสานงานมีความสำคัญมากที่สุด รองลงมาคือการวางแผน และสำคัญน้อยที่สุด คือ
การงบประมาณ
2.
ระยะระหว่างการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ
พบส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประสานงาน 5 ด้าน คือ
การจัดองค์การ การจัดบุคลากร การดำนวยการ
การประสานงาน และการงบประมาณ โดยการจัดองค์การ และการจัดบุคลากร
มีความสำคัญมากที่สุดใกล้เคียงกัน และสำคัญน้อยที่สุดคือ การงบประมาณ
3.
ระยะหลังการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ พบส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประสานงาน 2 ด้าน คือ
การอำนวยการ และการรายงาน ซึ่งพบว่า การอำนวยการมีความสำคัญมากกว่า
ผลการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งที่
2
รูปแบบการประสานงานการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ
1.
ระยะก่อนการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ ฝ่ายการศึกษาและฝ่ายบริการพยาบาล
ร่วมกันจัดองค์การ
โดยกำหนดโครงสร้างที่เอื้อต่อการประสานงานการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ ประกอบด้วยคณะกรรมการผสมจากทั้งสองฝ่าย มีหลักกการคือ
คณะกรรมการนี้ไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้าง อำนาจการบังคับบัญชาเดิมของทั้งสองฝ่าย
แต่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารงาน ระบุอำนาจ บทบาทหน้าที่
และความรับผิดชอบให้ชัดเจน และแจ้งผู้เกี่ยวข้องทราบ
จัดประชุมร่วมกันในระดับบริหารของทั้งสองฝ่าย
ก่อนการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ 1 เดือน
เพื่อวิเคราะห์หาแนวทางที่สามารถปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย รวมทั้งต่อนักศึกษา ร่วมกันพิจารณานโยบาย วัตถุประสงค์
และการวงแผนการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติที่ฝ่ายการศึกษาได้ร่างขึ้น วางแผนการประเมินผล ปรับทัศนคติให้เห็นความสำคัญ
และมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือกำหนดสมรรถนะที่พึงประสงค์ของบัณฑิตพยาบาลศาสตร์ ร่วมกันพิจารณาจัดอัตรากำลังของทั้งสองฝ่าย
ให้สอดคล้องกับหลักสูตร รายวิชา และจำนวนนักศึกษา ร่วมกันพัฒนาบุคลากร
ทั้งสองฝ่ายให้พร้อมต่อการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ มีความรุ้ความสามารถทั้งด้านวิชาการ
ทักษะการปฏิบัติการพยาบาล และมีทัศนคติที่ดีต่อการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ ร่วมกันจัดให้มีระบบการนิเทศ
และประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรทั้งสองฝ่าย
พร้อมทั้งเป็นการเปิดให้มีช่องทางการเสนอปัญหา ความต้องการ
ข้อเสนอแนะ
ร่วมกันจัดให้มีระบบการประสานงานที่มีประสิทธิภาพ
และจัดให้มีระบบการประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพ
โดยมีหนังสือเกี่ยวกับการจัดประสบกาณ์ภาคปฏิบัติให้ผู้เกี่ยวข้องเซ็นรับทราบ
ก่อนการฝึกประสบการณ์ภาคปฏิบัติ 2 สัปดาห์
ร่วมกันพิจารณาคู่มือการจัดประบการณ์ภาคปฏิบัติ
ที่ฝ่ายการศึกษาจัดทำขึ้น ซึ่งคู่มือควรมีลักษณะสั้นกระชับ
ประกอบด้วยข้อมูลการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ
รายนามและหมายเลขโทรศัพท์ของอาจารย์นิเทศ การปฐมนิเทศ และการประเมินผล และร่วมกันจัดให้มีระบบสารสนเทศของทั้งสองฝ่ายที่เกี่ยวกับการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติที่เป็นปัจจุบันเสมอ ร่วมกันพิจารณาจัดสรรงบประมาณทรัพยากร
วัสดุอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จำเป็น และเอื้อต่อการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ
2.
ระยะระหว่างการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ
ฝ่ายการศึกษาและฝ่ายบริการพยาบาลร่วมกันปฐมนิเทศนักศึกษา
ผู้บริหารทั้งสองฝ่ายร่วมกันคิดตามความเหมาะสมของการจัดองค์การในการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ ส่งเสริมให้มีการทำงานเป็นทีม โดยการเสริมสร้างสัมพันธภาพของทั้งสองฝ่าย ได้แก่ จัดให้มีการประชุมร่วมกัน การพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ และการสันทนาการร่วมกัน
จัดให้หัวหน้าหอผู้ป่วยทำหน้าที่นิเทศการปฏิบัติงานของอาจารย์นิเทศ และอาจารย์พี่เลี้ยง
ส่งเสริมให้บุคลากรทั้งสองฝ่ายสามารถเป็นผู้ช่วยเหลือ
สนับสนุนการเรียนรู้ของนักศึกษา
ตลอดจนส่งเสริมให้นักศึกษามีทัศนคติที่ดีต่อวิชาชีพและต่อองค์กร
จัดให้มีการประชุมในระดับบริหารทั้งสองฝ่าย
หลังการประชุมใหญ่ครั้งแรกประมาณ 6 เดือน
และจัดให้มีการประชุมในระดับปฏิบัติการของทั้งสองฝ่ายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1
ครั้ง
จัดให้มีการบันทึกการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติเป็นลายลักษณ์อักษร และพิจารณาแจ้งผู้เกี่ยวข้องทราบ และทั้งสองฝ่ายตรวจสอบทรัพยากร วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เอื้อต่อการประสานงานการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ
3.
ระยะหลังการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ
จัดประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารเพื่อประเมินผลการจัดประสบการณ์ภาคปฏิบัติ
และหาแนวทางในการปรับปรุงการศึกษาและการบริการพยาบาล
แจ้งผลการประเมินและแนวทางแก้ไขให้ผู้เกี่ยวข้องทราบเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อดำเนินการแก้ไขปรับปรุงต่อไป
|