รายละเอียดข้อมูลวิจัย

ลำดับที่ 1356
ผู้กรอกข้อมูล Wipada Kunaviktikul
วันที่กรอกข้อมูล 8/9/2553
ชื่อเรื่องไทย ความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคของหัวหน้าหอผู้ป่วยและพยาบาลประจำการในโรงพยาบาลชุมชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ชื่อเรื่องอังกฤษ Adversity Quotient of Head Nurses and Staff Nurses in Community Hospitals in the Three Border Provinces, Southern Thailand
ชื่อผู้วิจัยหลัก มณีรัตน์ สายสมุทร
   
ชื่อผู้วิจัยร่วม
ไม่พบข้อมูล
สังกัด มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
   
แหล่งทุน
ไม่พบข้อมูล
   
ประเภทของผลงาน วิทยานิพนธ์
แหล่งที่เก็บ
แหล่งที่เก็บข้อมูลโปรดระบุ(ชื่อ)
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 
   
ปี 2550
บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคของหัวหน้าหอผู้ป่วยและพยาบาลประจำการ และเปรียบเทียบความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคของหัวหน้าหอผู้ป่วย กับพยาบาลประจำการในโรงพยาบาลชุมชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพ จำนวน 214 คน ปฏิบัติงานในตำแหน่งหัวหน้าหอผู้ป่วย 107 คน และพยาบาลประจำการ 107 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป และ 2) แบบประเมินความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรค ซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้นจากการทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับสถานการณ์ในภาคใต้ และจากแนวคิดการฟันฝ่าอุปสรรคจากกรอบแนวคิดของสตอลทซ์ (Stoltz, 1997) ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงของเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน และตรวจหาความเที่ยงได้ค่าสถิติสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค (Cronbach’s alpha coefficient) เท่ากับ 0.95 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการวิเคราะห์สถานการณ์ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรค จำนวน 10 สถานการณ์   วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติค่าทีอิสระ (independent t - test) ผลการวิจัยพบว่า

                1. หัวหน้าหอผู้ป่วยส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.2 – 62.6 มีความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ทุกด้าน ดังนี้: ร้อยละ 62.6 มีความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคด้านการเข้าสู่ปัญหาอย่างมีสติ อยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 3.81 (SD = .78) ร้อยละ 58.96 มีความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคด้านการรับรู้ต้นเหตุ และความรับผิดชอบต่อปัญหาอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.76 (SD = .75) ร้อยละ 57 มีความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคด้านความอดทน อยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.99 (SD = .77)  และร้อยละ 54.2 มีความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคด้านการควบคุม อยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.56 (SD = .84)

                2. ในกลุ่มของพยาบาลประจำการ ร้อยละ 46.8 – 68.3   มีความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคแต่ละด้านอยู่ในระดับค่อนข้างสูงทุกด้าน ดังนี้: ร้อยละ 68.3 มีความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรค ด้านการรับรู้ต้นเหตุและความรับผิดชอบต่อปัญหาอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.73 (SD = .76) ร้อยละ 61.7 มีความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคด้านการเข้าสู่ปัญหาอย่างมีสติอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.79 (SD = .77) ร้อยละ 55.1 มีความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคด้านการควบคุมอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.57 (SD = .83) และร้อยละ 46.8 มีความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคด้านความอดทนอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.99 (SD = .73)

                3. จากการเปรียบเทียบความแตกต่าง   ของค่าเฉลี่ยความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรค ระหว่างหัวหน้าหอผู้ป่วยกับพยาบาลประจำการ  ในโรงพยาบาลชุมชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่าไม่มีความแตกต่างกันทั้งโดยรวมและรายด้าน

                ผลการวิจัยครั้งนี้ สามารถนำข้อมูลไปใช้เป็นแนวทางสนับสนุน และส่งเสริมบุคลากรในองค์การในการปฏิบัติงานภายใต้ความกดดันให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาความสามารถในการฝ่าฟันอุปสรรค ของพยาบาลหัวหน้าหอผู้ป่วยและพยาบาลประจำการ อันนำมาซึ่งประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพการดูแลต่อไป

URL
วัตถุประสงค์  เพื่อศึกษาความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคของหัวหน้าหอผู้ป่วยและพยาบาลประจำการ และเปรียบเทียบความสามารถในการฟันฝ่าอุปสรรคของหัวหน้าหอผู้ป่วย กับพยาบาลประจำการในโรงพยาบาลชุมชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย
 
    พิมพ์หน้านี้