รายละเอียดข้อมูลวิจัย

ลำดับที่ 1385
ผู้กรอกข้อมูล Wipada Kunaviktikul
วันที่กรอกข้อมูล 10/9/2553
ชื่อเรื่องไทย ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ปัจจัยจูงใจและการปฏิบัติการพยาบาลที่มีคุณภาพ ของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลเอกชนในเครือบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ
ชื่อเรื่องอังกฤษ Relationship between Perceived Motivational Conditions and Quality Nursing Service among Nursed Practice in Private Hospitals in Bangkok Dusit Vetchakarn Company
ชื่อผู้วิจัยหลัก ชุติกาญจน์ รัตนโอภา
   
ชื่อผู้วิจัยร่วม
ไม่พบข้อมูล
สังกัด มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
   
แหล่งทุน
ไม่พบข้อมูล
   
ประเภทของผลงาน วิทยานิพนธ์
แหล่งที่เก็บ
แหล่งที่เก็บข้อมูลโปรดระบุ(ชื่อ)
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 
   
ปี 2549
บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับการรับรู้ปัจจัยจูงใจ ระดับการปฏิบัติการพยาบาลที่มีคุณภาพ และความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ปัจจัยจูงใจและการปฏิบัติการพยาบาลที่มีคุณภาพ ของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลเอกชนในเครือบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลระดับปฏิบัติการ ซึ่งปฏิบัติงานในหน่วยงานนั้นไม่น้อยกว่า 1 ปีขึ้นไป จำนวน 120 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มอย่างง่ายแบบไม่แทนที่

                เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป ส่วนที่ 2 แบบสอบถามเกี่ยวกับการรับรู้ปัจจัยจูงใจของพยาบาล ซึ่งผู้วิจัยดัดแปลงมาจากแบบสอบถามของ ปวีณา (2546) ที่ใช้กรอบแนวคิดของแอลเดอร์เฟอร์ (Alderfer, 1972) และส่วนที่ 3 แบบสอบถามระดับการปฎิบัติการพยาบาลที่มีคุณภาพ ซึ่งผู้วิจัยสร้างขึ้นจากกรอบแนวคิดมาตรฐานการบริการพยาบาลของกองการพยาบาล (2542)    ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงของเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน และตรวจสอบความเที่ยงได้ค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาค (Cronbach’s alpha coefficient) ของแบบสอบถามปัจจัยจูงใจ ด้านการดำรงชีวิต เท่ากับ 0.95 และความเที่ยงของแบบสอบถามการปฎิบัติการพยาบาลที่มีคุณภาพ เท่ากับ 0.88 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาประกอบด้วย การแจกแจงความถี่ หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน

 

                ผลการวิจัยพบว่า

                1. พยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนในเครือบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ มีการรับรู้ปัจจัยจูงใจโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( = 3.52, SD = .48)

                2. พยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนในเครือบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ     มีการปฏิบัติการพยาบาลที่มีคุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับ ( = 3.25, SD = .48)

                3. ปัจจัยจูงใจด้านการดำรงชีวิต   ไม่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติการพยาบาลที่มีคุณภาพ (r = .005, p > .05)

                4. ปัจจัยจูงใจด้านความสัมพันธ์กับผู้อื่น      มีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำกับการปฏิบัติการพยาบาลที่มีคุณภาพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = .26, p < .01)

                5. ปัจจัยจูงใจด้านความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน/การเติบโต    มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติการพยาบาลที่มีคุณภาพทางบวกในระดับต่ำ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (r = .20, p < .05)

                ผลการศึกษาครั้งนี้ สามารถนำข้อมูลไปใช้ในการหาแนวทางสร้างแรงจูงใจของพยาบาลวิชาชีพ ในโรงพยาบาลเอกชน  ในการปฎิบัติงานบริการพยาบาลที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละคนและแต่ละสถานการณ์ เกิดความสำเร็จต่องาน องค์การ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้รับบริการ

 

 

URL
วัตถุประสงค์  เพื่อศึกษาระดับการรับรู้ปัจจัยจูงใจ ระดับการปฏิบัติการพยาบาลที่มีคุณภาพ และความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ปัจจัยจูงใจและการปฏิบัติการพยาบาลที่มีคุณภาพ ของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลเอกชนในเครือบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ
 
    พิมพ์หน้านี้