รายละเอียดข้อมูลวิจัย

ลำดับที่ 6056
ผู้กรอกข้อมูล สุพิศ รุ่งเรืองศรี
วันที่กรอกข้อมูล 10/9/2553
ชื่อเรื่องไทย รูปแบบการบริหารของหัวหน้าหอผู้ป่วยและความพึงพอใจในงานของพยาบาลประจำการ ในโรงพยาบาลศูนย์ เขตภาคเหนือ
ชื่อเรื่องอังกฤษ Head Nurse Management Style and Staff Nurse Job Satisfaction in Northern Regional Centre Hospitals
ชื่อผู้วิจัยหลัก กริชแก้ว แก้วนาค
   
ชื่อผู้วิจัยร่วม
ผู้ร่วมวิจัย
เรมวล นันท์ศุภวัฒน์
รวิวัลย์ วงศ์ลือเกียรติ
ศรีพรรณ กันธวัง
วันเพ็ญ เอี่ยมจ้อย
สังกัด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
   
แหล่งทุน
ไม่พบข้อมูล
   
ประเภทของผลงาน วิทยานิพนธ์
แหล่งที่เก็บ
แหล่งที่เก็บข้อมูลโปรดระบุ(ชื่อ)
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 
   
ปี 2541
บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้  มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบรูปแบบการบริหารของหัวหน้าหอผู้ป่วยตามการรับรู้ของตนเอง และพยาบาลประจำการ ศึกษาระดับความพึงพอใจในงาน และความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการบริหารของหัวหน้าหอผู้ป่วยตามการรับรู้ของพยาบาลประจำการ  กับความพึงพอใจในงานของพยาบาลประจำการ ในโรงพยาบาลศูนย์  เขตภาคเหนือ กลุ่มตัวอย่างเป็นหัวหน้าหอผู้ป่วยจำนวน 84 คน ได้มาโดยวิธีสุ่มแบบแบ่งชั้น และพยาบาลประจำการ จำนวน 248 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบง่าย จากทุกหอผู้ป่วยที่เลือกหัวหน้าหอผู้ป่วยเป็นกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามรูปแบบการบริหารของหัวหน้าหอผู้ป่วย ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นตามทฤษฎีรูปแบบการบริหารของลีเคิร์ท นำไปหาความเชื่อมั่น โดยใช้สัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค สำหรับหัวหน้าหอผู้ป่วยและพยาบาลประจำการ (แอลฟาของครอนบาคเท่ากับ 0.93 และ 0.90 ตามลำดับ)  แบบสอบถามความพึงพอใจในงานของพยาบาลประจำการ  ได้สร้างขึ้นตามแนวคิดของมุนสันและเฮดา (แอลฟาของครอนบาคเท่ากับ 0.93) ใช้สถิติ การแจกแจงความถี่ ร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน

                ผลการศึกษาพบว่า หัวหน้าหอผู้ป่วยรับรู้รูปแบบการบริหารของตนเอง  เป็นแบบมีส่วนร่วม (ร้อยละ 76.19) ส่วนพยาบาลประจำการรับรู้รูปแบบการบริหารของหัวหน้าหอผู้ป่วย  เป็นแบบปรึกษาหารือ (ร้อยละ 50.40) เมื่อเปรียบเทียบรูปแบบการบริหารของหัวหน้าหอผู้ป่วย ตามการรับรู้ของตนเองและพยาบาลประจำการ พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 (  t = 9.70) ความพึงพอใจในงานโดยรวมของพยาบาลประจำการ อยู่ในระดับปานกลาง (ร้อยละ 66.53) และรูปแบบการบริหารของหัวหน้าหอผู้ป่วยตามการรับรู้ของพยาบาลประจำการ  มีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับสูง กับความพึงพอใจในงานของพยาบาลประจำการอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .001 ( r = 0.72)

                ข้อเสนอแนะที่ได้จากการวิจัย ควรส่งเสริมให้หัวหน้าหอผู้ป่วยมีรูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเอื้ออำนวยให้พยาบาลประจำการมีระดับความพึงพอใจในงานที่สูงขึ้น อันจะส่งผลถึงประสิทธิภาพของการให้บริการด้านสุขภาพอนามัยได้ในที่สุด

 

URL
วัตถุประสงค์  เพื่อศึกษาเปรียบเทียบรูปแบบการบริหารของหัวหน้าหอผู้ป่วยตามการรับรู้ของตนเอง และพยาบาลประจำการ ศึกษาระดับความพึงพอใจในงาน และความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการบริหารของหัวหน้าหอผู้ป่วยตามการรับรู้ของพยาบาลประจำการ  กับความพึงพอใจในงานของพยาบาลประจำการ ในโรงพยาบาลศูนย์  เขตภาคเหนือ
 
    พิมพ์หน้านี้