บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยเชิงปฏิบัติการ เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาการนิเทศการพยาบาลของกลุ่มงานการพยาบาล โรงพยาบาลคอนสรรค์ จังหวัดชัยภูมิ โดยดำเนินการ 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนแรกเป็นการวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุของปัญหาการนิเทศการพยาบาล ขั้นตอนที่ 2 เป็นการหาแนวทางแก้ไขและขั้นตอนสุดท้ายคือการทดลองแนวทางแก้ไขที่กำหนดขั้น
กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยประกอบด้วยพยาบาลทุกคนของกลุ่มงานการพยาบาลโรงพยาบาลคอนสรรค์ จำนวน 27 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มผู้นิเทศ 10 คน ผู้รับการนิเทศ 17 คน ดำเนินการเก็บข้อมูลจากการแสดงความคิดเห็นของสมาชิกกลุ่ม โดยใช้กระบวนการกลุ่มโนมินอลและดำเนินกิจกรรมแทรกแซงตามแนวทางการแก้ไขปัญหาการนิเทศที่สมาชิกกลุ่มร่วมกันกำหนดเครื่องมือที่ใช้ประเมินผลก่อนและหลังดำเนินกิจกรรม คือ แบบสอบถามการปฏิบัติกิจกรรมการนิเทศและแบบสอบถามความพึงพอใจในงานตามการรับรู้ของผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ
วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. การนิเทศการพยาบาลของกลุ่มงานการพยาบาลไม่มีรูปแบบที่ชัดเจนทั้งในด้านกิจกรรมการนิเทศและระยะเวลาทำให้การนิเทศการพยาบาลขาดประสิทธิภาพประสิทธิผล สมาชิกต้องการให้การนิเทศการพยาบาลเป็นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการช่วยเหลือแก่บุคลากรในระดับรองลงมา ก่อให้เกิดขวัญกำลังใจในการทำงาน มีการกำหนดเป้าหมาย รูปแบบและแผนการนิเทศที่ชัดเจนร่วมกันระหว่างผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ
2. ปัญหาการนิเทศเกิดจากปัจจัย 3 ด้าน ได้แก่ ปัจจัยด้านผู้นิเทศ ปัจจัยด้านผู้รับการนิเทศและปัจจัยแวดล้อม ซึ่งปัจจัยด้านผู้นิเทศ คือ ผู้นิเทศขาดความรู้และประสบการณ์ ไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ ขาดทักษะในการสื่อสาร ขาดทักษะในการนิเทศ ขาดความมั่นคงทางอารมณ์ สาเหตุจากปัจจัยด้านผู้รับการนิเทศ คือ ทัศนคติไม่ดีต่อการนิเทศ ขาดขวัญกำลังใจ ขาดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ ไม่ปรับปรุงตนเมื่อผู้นิเทศแนะนำ และสาเหตุจากปัจจัยแวดล้อม คือ ขาดการกำหนดเป้าหมาย ขาดคู่มือการนิเทศ ขาดการจัดทำแผนการนิเทศและขาดการจัดทำแผนการฝึกอบรมเกี่ยวกับการนิเทศการพยาบาล
3. แนวทางการแก้ไขที่เห็นควรดำเนินการ ได้แก่ จัดอบรมการนิเทศการพยาบาล ประชุมเพื่อกำหนดแนวทางการนิเทศ ประชุมเพื่อจัดทำแผนการนิเทศและจัดทำคู่มือการนิเทศ
4. หลังดำเนินกิจกรรมแทรกแซงตามแนวทางแก้ไขปัญหา พบว่า
1.1 ค่าเฉลี่ยความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจกรรมการนิเทศ ของผู้นิเทศ ทั้งโดยรวมและรายด้านสูงขึ้น โดยกิจกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด คือ การเยี่ยมตรวจ
1.2 ค่าเฉลี่ยความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจกรรมการนิเทศตามการรับรู้ของผู้รับการนิเทศ ทั้งโดยรวมและรายด้านสูงขึ้น โดยกิจกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด คือ การเยี่ยมตรวจ
1.3 ค่าเฉลี่ยความพึ่งพอใจในงานของผู้นิเทศทั้งโดยรวมและราบด้านสูงขึ้น โดยพบว่าองค์ประกอบที่มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ ด้านความรับผิดชอบในงาน
1.4 ค่าเฉลี่ยความพึ่งพอใจในงานของผู้รับการนิเทศ ทั้งโดยรวมและรายด้านสูงขึ้น โดยพบว่าองค์ประกอบที่มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ ด้านความสำเร็จในงาน
1.5 ค่าเฉลี่ยความคิดเห็นเกี่ยวกับ การปฏิบัติกิจกรรมการนิเทศ และความพึงพอใจในงาน ของผู้นิเทศสูงกว่าผู้รับการนิเทศ ทั้งก่อนและหลังดำเนินกิจกรรมแทรงแซง
|