รายละเอียดข้อมูลวิจัย

ลำดับที่ 7504
ผู้กรอกข้อมูล ประณีตศิลป์ เชาวน์ลักษณ์สกุล
วันที่กรอกข้อมูล 24/9/2553
ชื่อเรื่องไทย ปัจจัยคัดสรรที่เกี่ยวข้องกับความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การของบุคลากรพยาบาลในงานการพยาบาลอายุรกรรมโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
ชื่อเรื่องอังกฤษ Selected Factors Associated with Organizational Commitment Among Nursing Personnel in Medical Nursing Department at Chiang Rai Prachanukrow Hospital
ชื่อผู้วิจัยหลัก นาฎยา อ่วมผึ้ง
   
ชื่อผู้วิจัยร่วม
ผู้ร่วมวิจัย
อรพรรณ พุมอาภรณ์
ประคิณ สุจฉายา
เรมวล นันทศุภวัฒน์
สังกัด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
   
แหล่งทุน
ไม่พบข้อมูล
   
ประเภทของผลงาน วิทยานิพนธ์
แหล่งที่เก็บ
แหล่งที่เก็บข้อมูลโปรดระบุ(ชื่อ)
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่คณะพยาบาลศาสตร์
   
ปี 2544
บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การและศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านลักษณะส่วนบุคคล  ปัจจัยด้านลักษณะงาน  และปัจจัยด้านประสบการณ์จากการทำงาน  กับความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การของบุคลากรพยาบาลในงานการพยาบาลอายุรกรรม  โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์  ประชากรเป็นบุคลากรพยาบาลที่ปฏิบัติงานในงานการพยาบาลอายุรกรรม โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จำนวน 107 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย  3 ส่วน คือส่วนที่ 1 แบบสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยด้านลักษณะส่วนบุคคล ส่วนที่ 2 แบบสอบถามความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การ  ที่สร้างขึ้นโดย เมทินี  จิตรอ่อนน้อม (2542)  ตามแนวคิดของเมาเดย์  สเทียร์ส และพอร์ตเตอร์ (Mowday,  Stees & Porter, 1979)  ผู้ศึกษาได้นำไปหาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามได้ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาคเท่ากับ .96  ส่วนที่ 3 แบบสอบถามปัจจัยคัดสรรที่เกี่ยวข้องกับความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การ ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นตามแนวคิดของสเทียร์ส (Steers, 1977)  ตรวจสอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิได้ค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหาเท่ากับ .83 นำไปหาความเชื่อมั่นของแบบสอบถามได้ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบาคเท่ากับ .93  สถิติที่ใช้ได้แก่  การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เชิงอันดับแบบสเปียร์แมน  และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน  ผลการศึกษามีดังนี้

                1.  บุคลากรพยาบาลในงานการพยาบาลอายุรกรรมโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ มีความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การโดยรวมอยู่ในระดับสูง ( m =  3.79 , s = 0.43)  และรายด้านแต่ละด้านคือ  ด้านความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในการยอมรับเป้าหมายและค่านิยมขององค์การ ด้านความเต็มใจทุ่มเทความพยายามอย่างมากเพื่อผลประโยชน์ขององค์การ  และด้านความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะดำรงรักษาการเป็นสมาชิกขององค์การ อยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกัน ( m =  3.91 , s = 0.42 ,  m =  3.79 , s = 0.43และ m =  3.66 , s = 0.58  ตามลำดับ) 

                2.  ปัจจัยด้านลักษณะส่วนบุคคลพบว่าไม่มีความสัมพันธ์กับความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การ

                3.  ปัจจัยด้านลักษณะงาน และปัจจัยด้านประสบการณ์จากการทำงาน มีความสัมพันธ์ทางบวกกับความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ( p = 0.68)

                ผลจากการศึกษาครั้งนี้เสนอแนะให้ผู้บริหารทางการพยาบาลดำรงรักษาความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การของบุคลากรพยาบาลไว้ในระดับสูงโดยคำนึงถึงปัจจัยด้านลักษณะงาน และด้านประสบการณ์จากการทำงาน

URL
วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การและศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านลักษณะส่วนบุคคล  ปัจจัยด้านลักษณะงาน  และปัจจัยด้านประสบการณ์จากการทำงาน  กับความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การของบุคลากรพยาบาลในงานการพยาบาลอายุรกรรม  โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ 
 
    พิมพ์หน้านี้