รายละเอียดข้อมูลวิจัย

ลำดับที่ 7505
ผู้กรอกข้อมูล ประณีตศิลป์ เชาวน์ลักษณ์สกุล
วันที่กรอกข้อมูล 24/9/2553
ชื่อเรื่องไทย ปัจจัยคัดสรรที่เกี่ยวข้องกับความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การของพยาบาลวิชาชีพ ภาควิชาวิสัญญีวิทยา โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
ชื่อเรื่องอังกฤษ Selected Factors Associated with Organizational Commitment Among Professional Nurses in Anestesiology Department at maharaj Nakorn Chiang Mai Hospital
ชื่อผู้วิจัยหลัก อนัญญา ไชยวุฒิ
   
ชื่อผู้วิจัยร่วม
ผู้ร่วมวิจัย
อรพรรณ พุมอาภรณ์
ประคิณ สุจฉายา
วิภาดา คุณาวิกติกุล
สังกัด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
   
แหล่งทุน
ไม่พบข้อมูล
   
ประเภทของผลงาน วิทยานิพนธ์
แหล่งที่เก็บ
แหล่งที่เก็บข้อมูลโปรดระบุ(ชื่อ)
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่คณะพยาบาลศาสตร์
   
ปี 2544
บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การ และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล  ปัจจัยด้านลักษณะงาน และปัจจัยด้านประสบการณ์จากการทำงานกับความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การของพยาบาลวิชาชีพ ภาควิชาวิสัญญีวิทยา โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ประชากรเป็นพยาบาลวิชาชีพ ภาควิสัญญีวิทยา  โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จำนวน 51 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเป็นแบบสอบถาม ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 แบบสอบถามปัจจัยส่วนบุคคล ส่วนที่ 2 แบบสอบถามความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การของมาวเดย์  สเทียร์ส และพอร์ตเตอร์ (Mowday, Steers, & Porter, 1979)  ซึ่งดัดแปลง โดย สุพิศ     กิตติรัชดา (2538) และดรุณศรี  สิริยศธำรง (2542)  ผู้ศึกษานำแบบสอบถามความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การไปหาความเที่ยงได้ค่าแอลฟาของครอนบาค  เท่ากับ .87  ส่วนที่ 3  แบบสอบถามปัจจัยคัดสรรที่เกี่ยวข้องกับความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การ ซึ่งผู้ศึกษาสร้างขึ้นได้ค่าความตรงกันของผู้ทรงคุณวุฒิ เท่ากับ .84 และค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหา เท่ากับ .83 และความเที่ยงของแบบสอบถามได้ค่าแอลฟาของครอนบาค เท่ากับ .89 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เชิงอันดับแบบสเปียร์แมน  และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน

 

 

 

 

 

ผลการศึกษาพบว่า

                1.  พยาบาลวิชาชีพ ภาควิชาวิสัญญีวิทยา โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ มีความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การ โดยรวมอยู่ในระดับสูง ( m =  3.79 , s = 0.75 ) และรายด้านแต่ละด้าน คือ ด้านการมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในการยอมรับเป้าหมาย และค่านิยมขององค์การอยู่ในระดับสูง ( m =  3.83 , s = 0.73)  ด้านการมีความเต็มใจที่จะใช้ความเพียรพยายามอย่างมากเพื่อทำประโยชน์ให้องค์การ อยู่ในระดับสูง ( m =  3.86 , s = 0.69)  ด้านการมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งการเป็นสมาชิกภาพขององค์การ อยู่ในระดับสูง ( m =  3.65, s = 0.85) 

                2.  ปัจจัยส่วนบุคคล  ไม่มีความสัมพันธ์กับความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การ

                3.  ปัจจัยด้านลักษณะงาน และปัจจัยด้านประสบการณ์จากการทำงาน มีความสัมพันธ์ทางบวกระดับปานกลาง กับความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (r = 0.62 และ 0.67 ตามลำดับ)

                 ผลการศึกษาครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า ผู้บริหารการพยาบาลควรส่งเสริมความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การของพยาบาลวิชาชีพ ภาควิชาวิสัญญีวิทยา  โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ให้สูงเช่นนี้หรือเพิ่มขึ้น และคำนึงถึงปัจจัยด้านลักษณะงาน  และปัจจัยด้านประสบการณ์จากการทำงานที่ก่อให้เกิดความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การ

 

 

URL
วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การ และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล  ปัจจัยด้านลักษณะงาน และปัจจัยด้านประสบการณ์จากการทำงานกับความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การของพยาบาลวิชาชีพ ภาควิชาวิสัญญีวิทยา โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
 
    พิมพ์หน้านี้