การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาทัศนคติ บรรทัดฐานของกลุ่มอ้างอิง และความตั้งใจที่จะใช้คอมพิวเตอร์ในงานบริการสุขภาพ และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทัศนคติกับความตั้งใจ และบรรทัดฐานของกลุ่มอ้างอิง และความตั้งใจที่จะใช้คอมพิวเตอร์ ในงานบริการสุขภาพของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลหนองคาย ประชากรเป็นพยาบาลวิชาชีพ จำนวน 149 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นแบบสอบถามที่สร้างโดยผู้วิจัย ประกอบด้วย ข้อมูลทั่วไป ทัศนคติ บรรทัดฐานของกลุ่มอ้างอิง และความตั้งใจที่จะใช้คอมพิวเตอร์ในงานบริการสุขภาพ หาค่าดัชนีความตรงตามาเนื้อหาของแบบสอบถามในส่วนของทัศนคติ บรรทัดฐานของกลุ่มอ้างอิง และความตั้งใจที่จะใช้คอมพิวเตอร์ในงานบริการสุขภาพได้เท่ากับ .84, .85 และ .90 ตามลำดับ หาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามโดยสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค ได้เท่ากับ .90, .95 และ .93 ตามลำดับ สถิติที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบว่า พยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลหนองคายมีทัศนคติที่จะใช้คอมพิวเตอร์ในงานบริการสุขภาพอยู่ในระดับสูง บรรทัดฐานของกลุ่มอ้างอิงที่จะใช้คอมพิวเตอร์ในงานบริการสุขภาพอยู่ในระดับปานกลาง และความตั้งใจที่จะใช้คอมพิวเตอร์ในงานบริการสุขภาพอยู่ในระดับสูง ทัศนคติมีความสัมพันธ์ทางบวกกับความตั้งใจที่จะใช้คอมพิวเตอร์ในงานบริการสุขภาพของพยาบาลวิชาชีพอยู่ในระดับปานกลางอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (r = .68) และบรรทัดฐานของกลุ่มอ้างอิงมีความสัมพันธ์ทางบวกกับความตั้งใจที่จะใช้คอมพิวเตอร์ในงานบริการสุขภาพของพยาบาลวิชาชีพอยู่ในระดับปานกลางอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (r = .69
|