สมรรถนะภาวะผู้นำเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้พยาบาลประจำการหน่วยวิกฤต
สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสมรรถนะภาวะผู้นำในพยาบาลประจำการหน่วยวิกฤต
โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จังหวัดเชียงราย ประชากรเป็นพยาบาลประจำการจำนวน
108 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
ประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคลและแบบสอบถามสมรรถนะภาวะผู้นำของเบนนิส (2003)
ซึ่งดัดแปลงโดยเรมวล นันท์ศุภวัฒน์ และ
อรอนงค์ วิชัยคำ (2548)
ผู้ศึกษาได้หาความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม เท่ากับ
.85 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย พิสัย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษา
พบว่าระดับสมรรถนะภาวะผู้นำของพยาบาลประจำการหน่วยวิกฤต มีดังนี้ ด้านแรงขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่น
อยู่ในระดับต่ำ ร้อยละ 51.85 ระดับปานกลาง ร้อยละ 43.52 ระดับดี ร้อยละ 3.70 และระดับต่ำมาก ร้อยละ
0.93 ด้านความฉลาดทางเชาวน์อารมณ์ อยู่ในระดับปานกลางและระดับต่ำเท่ากัน ร้อยละ
46.30 ระดับดี ร้อยละ 6.48
และระดับต่ำมาก ร้อยละ 0.93
ด้านการสร้างความไว้วางใจ/การเพิ่มความสามารถให้ผู้อื่น อยู่ในระดับต่ำ
ร้อยละ 55.56 ระดับปานกลาง ร้อยละ 36.11
ระดับต่ำมาก ร้อยละ 5.56 และระดับดี ร้อยละ 2.78
ด้านความคิดรวบยอดอยู่ในระดับต่ำ ร้อยละ 72.22 ระดับปานกลาง ร้อยละ 21.30
และระดับต่ำมาก ร้อยละ 6.48
ด้านการคิดอย่างเป็นระบบ อยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 47.22 ระดับต่ำ ร้อยละ 44.44 ระดับดี ร้อยละ 4.63 และระดับต่ำมาก ร้อยละ
3.70
ผลการศึกษาครั้งนี้สามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับผู้บริหารทางการพยาบาลโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ในการส่งเสริมและพัฒนาสมรรถนะภาวะผู้นำในพยาบาลประจำการหน่วยวิกฤตเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและพัฒนาคุณภาพทางการพยาบาลรวมทั้งพัฒนาองค์การให้ประสบความสำเร็จต่อไป
|