การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย
มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับคุณภาพบริการพยาบาลตามความคาดหวังและการรับรู้ และเปรียบเทียบความคาดหวังคุณภาพบริการพยาบาลกับการรับรู้คุณภาพบริการพยาบาลของผู้รับบริการภายใต้โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าโรงพยาบาลชุมชน
จังหวัดนครราชสีมา กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา คือ ผู้รับบริการภายใต้โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
โรงพยาบาลชุมชน จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 440 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ
แบบสอบถามคุณภาพบริการพยาบาลตามความคาดหวังและการรับรู้ของผู้รับบริการภายใต้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
โรงพยาบาลชุมชน จังหวัดนครราชสีมา สร้างขึ้นโดยผู้วิจัยตามกรอบแนวคิดคุณภาพบริการตามนโยบายโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
ร่วมกับแนวคิดการวัดคุณภาพบริการ SERVQUAL ของ
Parasuraman et al. (1990) ที่พัฒนาโดย Scardina (1994) ตรวจสอบความเที่ยงตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 7 ท่าน และหาค่าความเที่ยงของแบบสอบถามโดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค
ได้ค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.97 และ 0.97 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบทีแบบจับคู่
ผลการวิจัยพบว่า
1.
ความคาดหวังคุณภาพบริการพยาบาลของผู้รับบริการภายใต้โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
โรงพยาบาลชุมชน จังหวัดนครราชสีมา อยู่ในระดับมากที่สุด ทั้งโดยรวมและรายด้านและพบว่าด้านการให้บริการที่มีการประกันคุณภาพมีค่าเฉลี่ยคะแนนความคาดหวังมากกว่าด้านอื่นๆ
และเมื่อจำแนกเป็นรายข้อพบว่าอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด
2.
การรับรู้คุณภาพบริการพยาบาลของผู้รับบริการภายใต้โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
โรงพยาบาลชุมชน จังหวัดนครราชสีมา อยู่ในระดับมาก ทั้งโดยรวมและรายด้าน และพบว่าด้านการให้บริการที่เข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้รับบริการมีค่าเฉลี่ยคะแนนการรับรู้น้อยกว่าด้านอื่นๆและเมื่อจำแนกเป็นรายข้อพบว่าอยู่ในระดับปานกลางถึงมากที่สุด
3.
ความคาดหวังคุณภาพบริการพยาบาลและการรับรู้คุณภาพบริการพยาบาลของผู้รับบริการภายใต้โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
โรงพยาบาลชุมชน จังหวัดนครราชสีมามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยค่าเฉลี่ยคะแนนความคาดหวังสูงกว่าค่าเฉลี่ยคะแนนการรับรู้ทั้งโดยรวมและรายด้าน
และเมื่อจำแนกเป็นรายข้อพบว่ามีความคาดหวังสูงกว่าการรับรู้ทุกข้อ ซึ่งพบว่ามีเพียง
2 ข้อที่ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.05 คือ พยาบาลไม่ควรนำข้อมูลที่ท่านไม่ต้องการให้เปิดเผยไปพูดคุยกับผู้อื่น
และพยาบาลให้การดูเอาใจใส่ท่านอย่างสม่ำเสมอ
ผลการวิจัยครั้งนี้ผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาลให้เพิ่มมากขึ้นในทุกด้าน
โดยเฉพาะในข้อรายการคุณภาพบริการพยาบาลที่มีความแตกต่างกันมาก โดยจัดลำดับความสำคัญและพัฒนาคุณภาพตามที่ผู้รับบริการต้องการและคาดหวังรวมทั้งการนำกลยุทธ์การบริหารทางการพยาบาลมาใช้ให้เป็นรูปธรรม
เช่น การพยาบาลแบบองค์รวมการจัดทีมผู้ให้บริการแบบสหสาขาวิชาชีพ การวิจัยทางเลือกด้านสุขภาพ
และการนำงานวิจัยต่างๆมาใช้ เพื่อสะท้อนถึงบริการพยาบาลที่มีคุณภาพสามารถตอบสนองความคาดหวังของผู้รับบริการได้อันจะนำมาซึ่งความพึงพอใจและประทับใจในคุณภาพบริการพยาบาลต่อไป
|