การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงบรรยาย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยคัดสรร ได้แก่ ความรู้ ทัศนคติ ระบบสนับสนุนขององค์กร และการได้รับการนิเทศที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติกิจกรรมที่จะนำไปสู่การประกันคุณภาพการพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลทั่วไปในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา คือ พยาบาลวิชาชีพระดับปฏิบัติการในหอผู้ป่วยใน โรงพยาบาลร้อยเอ็ด โรงพยาบาลมหาสารคาม โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ โรงพยาบาลยโสธร โรงพยาบาลเลย โรงพยาบาลหนองบัวลำภู และโรงพยาบาลอำนาจเจริญ จำนวน 344 คน ซึ่งสุ่มโดยวิธีแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นเครื่องมือที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ประกอบด้วยแบบสอบถามข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง ความรู้ ทัศนคติ ระบบสนับสนุนขององค์การ การได้รับการนิเทศ และการปฏิบัติกิจกรรมที่จะนำไปสู่การประกันคุณภาพการพยาบาล ผู้วิจัยได้นำเครื่องมือไปตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน และหาความเที่ยงของแบบสอบถาม ซึ่งในการหาความเที่ยงของแบบสอบความรู้ โดยใช้สูตรของคูเดอร์ ริชาร์ดสัน 20 ได้ค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.72 แบบสอบถามทัศนคติ ระบบสนับสนุนขององค์การ การได้รับการนิเทศ และการปฏิบัติกิจกรรมที่จะนำไปสู่การประกันคุณภาพการพยาบาล หาความเที่ยงโดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาค ได้ค่าสัมประสิทธิ์ความเที่ยงเท่ากับ 0.83 , 0.92 ,0.95 และ 0.89 ตามลำดับ
การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป (SPSS/FW) ในการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ความรู้และทัศนคติมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการปฏิบัติกิจกรรมที่จะนำไปสู่การประกันคุณภาพการพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 0.41 และ 0.43 ตามลำดับ ระบบสนับสนุนขององค์การ และการได้รับการนิเทศมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการปฏิบัติกิจกรรมที่จะนำไปสู่การประกันคุณภาพการพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.01 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 0.75 และ 0.41 ตามลำดับ
2. ปัจจัยที่สามารถร่วมกันทำนายการปฏิบัติกิจกรรมที่จะนำไปสู่การประคุณภาพการพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลทั่วไป ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เรียงตามลำดับได้แก่ ระบบสนับสนุนขององค์การ ทัศนคติ ความรู้ และการได้รับการนิเทศ โดยสามารถร่วมทำนายการปฏิบัติกิจกรรมที่จะนำไปสู่การประกันคุณภาพการพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพได้ร้อยละ 24.9
|