วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมภาวะผู้นำของหัวหน้าหอผู้ป่วย
กับการได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงาน ตามการรับรู้ของพยาบาลประจำการ โรงพยาบาลกองทัพบกการศึกษาวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณา ประชากรเป็นพยาบาลประจำการ
ซึ่งปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยโรงพยาบาลกองทัพบก 37 แห่งจำนวน 1,408 คน
เลือกกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 306 คน โดยวิธีสุ่มตัวอย่างแบบง่าย
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่แบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมภาวะผู้นำโดยผู้วิจัยดัดแปลงมาจาก Profiling
Organizational Characteristics ตามแนวคิดของลิเคิร์ทและการเสริมสร้างพลังอำนาจในงาน ดัดแปลงมาจาก The
Condition of Work Effectiveness Questionnaire ของลาสซิงเกอร์ตามแนวคิดของแคนเตอร์ มีค่าความเชื่อมั่น 0.96
และ 0.76 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสัมประสิทธิ์ สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบว่า พยาบาลประจำการ โรงพยาบาลกองทัพบกรับรู้พฤติกรรมภาวะผู้นำของหัวหน้าหอผู้ป่วยว่า
หัวหน้าหอผู้ป่วยมีพฤติกรรมภาวะผู้นำ อยู่ในระดับสูงและพยาบาลประจำการได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจ
อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าการได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงาน ด้านการได้รับการสนับสนุน
อยู่ในระดับสูง พฤติกรรมภาวะผู้นำของหัวหน้าหอผู้ป่วยตามการรับรู้ของพยาบาลประจำการ มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงาน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และพบว่า พฤติกรรมภาวะผู้นำของหัวหน้าหอผู้ป่วยตามการรับรู้ของพยาบาลประจำการ
มีความสัมพันธ์สูงกับการได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงาน ด้านการได้รับการสนับสนุน ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าควรมีการพัฒนาความรู้และทักษะด้านภาวะผู้นำแก่หัวหน้าหอผู้ป่วย เพื่อส่งเสริมให้มีการเสริมสร้างพลังอำนาจในงานแก่พยาบาลประจำการเพิ่มขึ้น
|