วามเครียดจากบทบาทหน้าที่ของพยาบาล
จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อพยาบาล องค์กรพยาบาล และส่วนรวม
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเครียดจากการทำงานและวิธีการปรับแก้ความเครียดของพยาบาล
และภาวะสุขภาพ และศึกษาตัวทำนายภาวะสุขภาพด้านร่างกายและจิตใจ กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลประจำจังหวัดในเขตภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน
147 คน ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามความเครียดจากบทบาทหน้าที่ แบบสอบถามเกี่ยวกับวิธีการปรับแก้ความเครียด
และแบบสอบถามเกี่ยวกับภาวะสุขภาพทางด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งแบบสอบถามดังกล่าวได้รับการแปลเป็นภาษาไทย
โดย สายพิน เกษมกิจวัฒนา (2544) การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา หาค่าความถี่
ร้อยละ ค่าเฉลี่ย
และความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของความเครียด
วิธีการปรับแก้ และภาวะสุขภาพ
และหาตัวทำนายภาวะสุขภาพโดยใช้การวิเคราะห์การถดถอยพหุและการวิเคราะห์การจำแนกพหุ
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า
1.
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเครียดจากบทบาทหน้าที่ของพยาบาลเรียงจากมากไปน้อย
คือภาระงานที่มากเกินไปมากที่สุด
ความขัดแย้งกับแพทย์
ความกังวลเกี่ยวกับการรักษาของแพทย์รองลงมาตามลำดับ และความขัดแย้งกับพยาบาลพบน้อยที่สุด
2.
วิธีการปรับแก้ความเครียดของพยาบาลที่ใช้เรียงจากมากไปน้อย คือ
การวางแผนการแก้ปัญหา
การยอมรับในความรับผิดชอบ
การแสวงหาการสนับสนุนทางสังคม
การควบคุมตนเอง
การปรับการคิดในทางบวก การถอยห่าง
การเผชิญหน้า และการหลบหนี – หลีกเลี่ยง ตามลำดับ
3. ภาวะสุขภาพของกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่
มีความจำกัดในการทำกิจกรรมเล็กน้อยหรือแทบไม่มีเลย สุขภาพโดยทั่ว ๆ
ไปอยู่ในเกณฑ์ดี มีสุขภาพไม่แตกต่างเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาและมีสุขภาพจิตอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างดี
4.
ปัจจัยที่สามารถทำนายภาวะสุขภาพในด้านความเจ็บปวดของร่างกาย ได้แก่ ความเครียดโดยรวม
จำนวนสมาชิกในครอบครัวที่ไม่ใช่ญาติสายตรง
และวุฒิการศึกษาสูงสุด
5. ปัจจัยที่สามารถทำนายภาวะสุขภาพในด้านสุขภาพเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ได้แก่ ความเครียดโดยรวม
ความเครียดในด้านการตายของผู้ป่วย
วิธีการปรับแก้ความเครียดในด้านการวางแผนการแก้ปัญหา รายได้ของครอบครัว
วุฒิการศึกษาเมื่อเริ่มเข้าทำงานในวิชาชีพพยาบาล
ผลการวิจัยจะนำไปสู่การหาแนวทางในการป้องกันไม่ให้พยาบาลเกิดความเครียดที่สูงเกินไปการใช้วิธีการปรับแก้ที่ได้ผลดี และแนวทางในการสร้างเสริมสุขภาพแก่พยาบาล
|