นโยบายสาธารณะด้านสุขภาพส่งผลกระทบต่อวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
การปฏิบัติพยาบาล รวมถึงการให้บริการด้านสุขภาพ
พยาบาลวิชาชีพควรจะมีความรู้และมีส่วนร่วมในการพัฒนานโยบายสุขภาพ
การศึกษาครั้งนี้
มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้และการมีส่วนร่วมในกระบวนการนโยบายสุขภาพแห่งชาติของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพจำนวน 378
คน
ได้กลุ่มตัวอย่างโดยการสุ่มแบบชั้นภูมิอย่างมีสัดส่วน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นแบบสอบถามข้อมูลทั่วไปและแบบสอบถามความรู้และการมีส่วนร่วมของพยาบาลวิชาชีพเกี่ยวกับกระบวนการนโยบายสุขภาพแห่งชาติที่คณะผู้วิจัยสร้างขึ้นและผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิได้ค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหาเท่ากับ
.86 และ .94 ตามลำดับ ทดสอบความเชื่อมั่นโดยวิธี K-R 20 และการหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค
ได้ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเท่ากับ .81
และ .90 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา
ผลการศึกษาพบว่า
พยาบาลวิชาชีพมากกว่าครึ่ง (ร้อยละ 63.42)
มีความรู้เกี่ยวกับกระบวนการนโยบายสุขภาพแห่งชาติโดยรวมอยู่ในระดับสูง โดยพยาบาลวิชาชีพร้อยละ 93.65 มีความรู้เกี่ยวกับการนำเอานโยบายไปปฏิบัติอยู่ในระดับสูงมาก
ร้อยละ 50.53 มีความรู้เกี่ยวกับการจัดทำนโยบายอยู่ในระดับสูง และร้อยละ
27.51
มีความรู้เกี่ยวกับการปรับนโยบายอยู่ในระดับสูง พยาบาลวิชาชีพส่วนใหญ่
(ร้อยละ 80.42) ไม่มีส่วนร่วมในกระบวนการนโยบายสุขภาพแห่งชาติ โดยพยาบาลวิชาชีพร้อยละ
83.33 ไม่มีส่วนร่วมในการจัดทำนโยบาย
ร้อยละ 75.13
ไม่มีส่วนร่วมในด้านการนำนโยบายสุขภาพไปปฏิบัติ และร้อยละ 70.10
ไม่มีส่วนร่วมในด้านการปรับเปลี่ยนนโยบายสุขภาพ
ผลการศึกษาครั้งนี้ผู้บริหารการพยาบาลสามารถนำไปพัฒนาศักยภาพของตนเองและพยาบาลวิชาชีพในองค์การให้มีความตระหนักถึงความสำคัญ
ความรู้ และความสามารถในการมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายสาธารณะด้านสุขภาพ โดยเฉพาะ แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 10
ที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ
|