ความเป็นมา: ทีมพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยเบาหวาน
(DM) ความดันโลหิตสูง (HT) และโรคหลอดเลือด
โรงพยาบาลลำพูน ได้พัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยที่สถานีอนามัยร่วมกับโรงพยาบาลมาตั้งแต่ปี
2546 แต่ยังไม่มีการประเมินประสิทธิภาพของระบบดังกล่าว
วัตถุประสงค์: เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการดูแลผู้ป่วย
DM และผู้ป่วย HT แบบให้การดูแลที่สถานีอนามัยร่วมกับโรงพยาบาล
(ระบบสถานีอนามัย) กับแบบให้การดูแลที่โรงพยาบาล (ระบบโรงพยาบาล)
รูปแบบการศึกษา: การศึกษาเชิงพรรณนาเปรียบเทียบ
สถานที่ศึกษา: สถานีอนามัยในเขตเมือง
และโรงพยาบาลลำพูน
วิธีการศึกษา: ศึกษาผู้ป่วย DM
และผู้ป่วย HT ที่รักษารับการรักษาระบบโรงพยาบาล
และระบบสถานีอนามัย รวบรวมข้อมูลย้อนหลังจากเวชระเบียนผู้ป่วย ได้แก่
ลักษณะทั่วไปและผลการดูแลรักษา วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณา
และเปรียบเทียบผลการรักษาผู้ป่วย 2 ระบบ ด้วย
chi-squared test หรือ exact probability test
ผลการศึกษา: กลุ่มตัวอย่างผู้ป่วย
DM ระบบโรงพยาบาล 144 และระบบสถานีอนามัย
144 คน มีลักษณะทั่วไปและโรคหรือภาวะพบร่วมคล้ายคลึง กลุ่มระบบโรงพยาบาลและกลุ่มระบบสถานีอนามัยตรวจตา
9.0% และ 2.1% (p = 0.018) ตรวจน้ำตาลในเม็ดโลหิตแดง
(HbA1C) 9.0% และ 59.0% (p < 0.001) การตรวจอื่นๆ ไม่แตกต่างกัน ควบคุมระดับน้ำตาล (FBS) ให้อยู่ระดับปกติ (81-120 mg%) 47.1% และ
62.9% (p = 0.018) ผู้ป่วยที่มีโรคแทรกซ้อนและมาตรวจนอกนัดหรือมานอนโรงพยาบาลด้วยโรคที่สัมพันธ์กับ
DM ไม่แตกต่างกัน ส่วนตัวอย่างผู้ป่วย HT ระบบโรงพยาบาล 240 คน และระบบสถานีอนามัย 240
คน มีลักษณะต่างกันคือ เป็นผู้ป่วยเพศหญิง 64.2% และ 75.0% (p = 0.010) พบภาวะไขมันในเลือดสูง 31.7%
และ 20.8% (p = 0.007) ลักษณะอื่นๆ ไม่ต่างกัน
การตรวจภาวะแทรกซ้อนและโรคร่วมประจำปี ได้แก่การตรวจ FBS 53.8% และ 30% (p < 0.001) การตรวจหัวใจ 6.3% และ 1.3% (p = 0.007) ควบคุมความดันโลหิตให้ไม่เกินปกติ
(140/90 mmHg) 90.3% และ 90.9% (p = 0.598) ผู้ป่วยมาตรวจนอกนัดหรือมานอนโรงพยาบาลด้วยโรคที่สัมพันธ์กับ
HT และมีอาการปวดหัวและวิงเวียนศีรษะ 2.9% และ 0% (p = 0.015)
ข้อยุติ: ผู้ป่วย DM ที่ดูแลรักษาระบบสถานีอนามัย ควบคุมโรคได้ดี ได้รับการตรวจภาวะแทรกซ้อนและโรคร่วมประจำปี
และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดก่อนอาหาร ได้ดีกว่าผู้ป่วยในระบบโรงพยาบาล ผู้ป่วย HT
ที่รักษาระบบสถานีอนามัย ควบคุมโรคได้ดี เท่าๆ
กับผู้ป่วยในระบบโรงพยาบาล ควรพิจารณาส่งผู้ป่วย DM และ HT
ให้กลับไปรับการดูแลรักษาที่สถานีอนามัยใกล้บ้าน
|