ทัศนคติต่อการเก็บคะแนนหน่วยกิจจากการศึกษาต่อเนื่องทางการพยาบาลเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะส่งผลให้พยาบาลปฏิบัติต่อการศึกษาต่อเนื่องด้วยการมองเห็นคุณค่าในการเพิ่มพูนความรู้และทักษะ เพื่อคงไว้ซึ่งสมรรถนะในการปฏิบัติการพยาบาลให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติ การปฏิบัติและข้อจำกัดหรืออุปสรรคต่อการศึกษาต่อเนื่องทางการพยาบาล เพื่อต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของพยาบาลวิชาชีพ ในโรงพยาบาลชุมชน เขตภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช ตรัง และพัทลุง จำนวน 398 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น ประกอบด้วย ข้อมูลส่วนบุคคล แบบวัดทัศนคติต่อการศึกษาต่อเนื่องทางการพยาบาล เพื่อต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ แบบสอบถามการปฏิบัติและข้อจำกัดหรืออุปสรรคในการศึกษาต่อเนื่องทางการพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพ คำนวณค่าดัชนีความตรงตามเนื้อหาและหาค่าความเชื่อมั่นได้เท่ากับ .92 และ .91 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1.ทัศนคติต่อการศึกษาต่อเนื่องทางการพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลชุมชน เขตภาคใต้ โดยรวมและรายด้าน ได้แก่ ด้านความรู้ความเข้าใจ ด้านอารมณ์ความรู้สึกและด้านพฤติกรรมปฏิบัติพบว่าอยู่ในระดับปานกลาง
2.การปฏิบัติต่อการศึกษาต่อเนื่องทางการพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลชุมชน เขตภาคใต้ พบว่ากลุ่มตัวอย่างเข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาต่อเนื่องมากถึงร้อยละ 80.7 โดยใช้รูปแบบของการเข้าฟังบรรยาย/สัมมนา/อภิปราย/อบรมฟื้นฟูวิชาการมากที่สุด ร้อยละ 87.2 และศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง ร้อยละ 41.9 สามารถเก็บคะแนนหน่วยกิตได้ครบ 50 หน่วยคะแนน มีเพียงร้อยละ 24.4 และร้อยละ 62.6 ยังเก็บสะสมคะแนนหน่วยกิตได้ไม่ครบ 50 หน่วยคะแนน โดยเฉลี่ยสามารถเก็บสะสมได้เท่ากับ 29 หน่วยคะแนน
3.ข้อจำกัดหรืออุปสรรคในการศึกษาต่อเนื่องทางการพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลชุมชน เขตภาคใต้ ได้แก่ ค่าใช้จ่าย ภาระงาน ขาดอัตรากำลัง และห่างไกลจากสถานศึกษา ผลการวิจัยครั้งนี้สามารถเป็นแนวทางสำหรับผู้บริหารโรงพยาบาลและผู้บริหารการพยาบาล ในการส่งเสริมทัศนคติต่อการศึกษาต่อเนื่องทางการพยาบาลของบุคลากรพยาบาลให้ดียิ่งขึ้น
|