การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษา 1) การมีส่วนร่วมในการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพโดยรวมและรายด้าน 2) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านบุคคล คือ ฐานะทางเศรษฐกิจ ประสบการณ์ในการทำงาน กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพ 3) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านองค์การ คือ ขนาดโรงพยาบาล จำนวนบุคลากรทางการพยาบาล กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพ 4) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่เป็นปฏิกิริยาร่วมระหว่างบุคคลและองค์การ คือ การสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง ความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การการได้รับการฝึกอบรมเรื่องการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล บทบาทที่ได้รับมอบหมายในการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพ 5) ตัวแปรพยากรณ์การมีส่วนร่วมในการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพ กลุ่มตัวอย่าง คือ พยาบาลวิชาชีพ จำนวน 358 คน เลือกโดยการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป การสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง ความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การ การมีส่วนร่วมในการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน การวิเคราะห์ไคสแควร์ One – way ANOVA และการวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน
ผลการวิจัยพบว่า
1. การมีส่วนร่วมในการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลชุมชนใน
เขตภาคเหนือตอนล่าง โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.82, SD = 0.67) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า การมีส่วนร่วมอยู่ในระดับมากทุกด้าน ดังนี้ ด้านผลประโยชน์ ( = 3.99, SD = 0.70) ด้านการตัดสินใจ ( = 3.85, SD = 0.70) ด้านการประเมินผล ( = 3.82, SD = 0.74) และด้านการปฏิบัติ ( = 3.75, SD = 0.75) ตามลำดับ
2. ปัจจัยด้านบุคคล คือ ฐานะทางเศรษฐกิจ ประสบการณ์ในการทำงาน มีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วม
ในการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลชุมชนในเขตภาคเหนือตอนล่าง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
3. ปัจจัยด้านองค์การ คือ ขนาดโรงพยาบาล ไม่มีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาลโดยรวม เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ขนาดโรงพยาบาลมีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมด้านการตัดสินใจ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนจำนวนบุคลากรทางการพยาบาลมีความสัมพันธ์ทางลบกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
4. ปัจจัยที่เป็นปฏิกริยาร่วมระหว่างบุคคลและองค์การ คือ การสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง ความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การ การได้รับการฝึกอบรมเรื่องการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล บทบาทที่ได้รับมอบหมายในการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาลมีความสัมพันธ์กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
5. ตัวแปรที่สามารถร่วมกันทำนายการมีส่วนร่วมในการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพ ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 มี 5 ตัวแปร ได้แก่การสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง ความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การ การได้รับการฝึกอบรมเรื่องการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล บทบาทที่ได้รับมอบหมายในการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาลฐานะทางเศรษฐกิจ สามารถร่วมกันอธิบายความแปรปรวนของการมีส่วนร่วมในการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล ได้ร้อยละ 50.5 ( R 2 = 0.505) ได้สมการพยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐาน ดังนี้
Z = 0.293 การสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง + 0.335 ความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การ + 0.182 การที่ได้รับการฝึกอบรมเรื่องการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล + 0.134 บทบาทที่ได้รับมอบหมายในการพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล + 0.107 ฐานะทางเศรษฐกิจ
|