การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง อายุ สถานภาพสมรสระดับการศึกษา ดัชนีมวลกาย ตำแหน่ง จำนวนบุคคลที่เป็นภาระ งานอื่นนอกเหนือจากงานประจำรายได้ โรคประจำตัว ระยะเวลาที่ใช้เดินทางมาที่ทำงาน พฤติกรรมในอดีตการรับรู้ประโยชน์ของการกระทำ การรับรู้อุปสรรคของการกระทำ การรับรู้สมรรถนะแห่งตน อิทธิพลด้านสัมพันธภาพอิทธิพลด้านสถานการณ์กับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของพยาบาลวิชาชีพ (2) ค้นหาตัวพยากรณ์ที่ดีในการพยากรณ์พฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพและสร้างสมการพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพและ (3) ศึกษารูปแบบความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลของพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลนำร่องส่งเสริมสุขภาพในเขตภาคเหนือตอนล่างจำนวน 300 คน ตัวแปรพยากรณ์ได้แก่ อายุ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา ดัชนีมวลกาย ตำแหน่ง จำนวนบุคคลที่เป็นภาระ งานอื่นนอกเหนืองานประจำ รายได้ โรคประจำตัว ระยะเวลาที่ใช้เดินทางมาทำงาน พฤติกรรมในอดีต การรับรู้ประโยชน์ของการกระทำ การรับรู้อุปสรรคของการกระทำ การรับรู้สมรรถนะแห่งตน อิทธิพลด้านสัมพันธภาพ อิทธิพลด้านสถานการณ์ ตัวแปรเกณฑ์ได้แก่พฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของพยาบาลวิชาชีพ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามพฤติกรรมในอดีต แบบสอบถามการรับรู้ประโยชน์ของการกระทำ แบบสอบถามการรับรู้อุปสรรคของการกระทำ แบบสอบถามการรับรู้สมรรถนะแห่งตน แบบสอบถามอิทธิพลด้านสัมพันธภาพ แบบสอบถามอิทธิพลด้านสถานการณ์และแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของพยาบาลวิชาชีพ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณและการวิเคราะห์เส้นทาง
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. ความสัมพันธ์ระหว่างอายุ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา ดัชนีมวลกาย ตำแหน่งจำนวนบุคคลที่เป็นภาระ งานอื่นนอกเหนืองานประจำ รายได้ โรคประจำตัว ระยะเวลาที่ใช้เดินทางมาที่ทำงาน พฤติกรรมในอดีต การรับรู้ประโยชน์ของการกระทำ การรับรู้อุปสรรคของการกระทำการรับรู้สมรรถนะแห่งตน อิทธิพลด้านสัมพันธภาพ อิทธิพลด้านสถานการณ์กับพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของพยาบาลวิชาชีพ ส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์ทางบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001
2. ตัวพยากรณ์ที่ดีในการพยากรณ์พฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพ ได้แก่พฤติกรรมในอดีต (X11) การรับรู้ประโยชน์ของการกระทำ (X12) การรับรู้สมรรถนะแห่งตน (X14) และอิทธิพลด้านสัมพันธภาพ (X15)กลุ่มตัวพยากรณ์ที่มีอำนาจในการพยากรณ์ได้ร้อยละ 53.60 เขียนสมการพยากรณ์ในรูปคะแนนดิบ (Y) และคะแนนมาตรฐาน (Z) ได้ดังนี้
Ý = 0.108 + 0.224 X 11 + 0.0924 X 12 + 0.323 X 14+ 0.172 X 15
Ź = 0.299Z11 + 0.104Z 12 + 0.372Z 14+ 0.162 X 15
3. รูปแบบความสัมพันธ์เชิงเหตุผลและผลของพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของพยาบาลวิชาชีพเป็นดังนี้
ตัวแปรที่มีอิทธิพลทางตรงและทางอ้อมต่อพฤติกรรมส่งเสริมสุขภาพของพยาบาลวิชาชีพได้แก่ อายุ โรค รายได้ ดัชนีมวลกาย งานอื่นนอกจากงานประจำ พฤติกรรมในอดีต การรับรูประโยชน์ของการกระทำ การรับรู้สมรรถนะแห่งตน อิทธิพลด้านสัมพันธภาพและอิทธิพลด้านสถานการณ์ อิทธิพลทางตรงได้แก่ อายุ โรค พฤติกรรมในอดีต การรับรู้ประโยชน์ของการกระทำ การรับรู้สมรรถนะแห่งตน อิทธิพลด้านสัมพันธและอิทธิพลด้านสถานการณ์
|