การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ต้นทุนและประสิทธิผลการรักษาทางทันตกรรม
จัดฟันชนิดติดแน่น ของคลินิกทันตกรรมจัดฟัน คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ต้นทุน
วิเคราะห์ในมุมมองของผู้ให้บริการ ปีงบประมาณ 2548 โดยศึกษาตามองค์ประกอบต้นทุน คือ ต้นทุนดำเนินการ และต้นทุนการลงทุน ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงวิเคราะห์ กลุ่มประชากร ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่แฟ้มประวัติ การรักษา แบบพิมพ์ฟันและฟิล์ม panoramic ของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาเสร็จสมบูรณ์ระหว่างปี พ.ศ. 2531-2548 ที่มีอายุก่อนการรักษาระหว่าง 12-18 ปี และมีลักษณะการสบฟันผิดปกติชนิดที่1 จำนวน 47 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบบันทึกข้อมูลตามองค์ประกอบต้นทุนและแบบบันทึกข้อมูลประสิทธิผลตามเกณฑ์ของ American Board of Orthodontics สำหรับระดับประสิทธิผลที่ใช้ในการวิจัยนี้กำหนดไว้ 3 ระดับ คือ ระดับดี น้อยกว่า 20 คะแนน ยอมรับ 21-30 คะแนน และไม่ยอมรับ มากกว่า 30 คะแนน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์คือ การทดสอบเปรียบเทียบตัวแปรอิสระ โดยใช้ t-test การวิเคราะห์ความไวเป็นการดำเนินการเพื่อทดสอบการเปลี่ยนแปลงค่าของตัวแปรหลักที่มีผลกระทบต่อผลการวิเคราะห์
ผลการวิจัยพบว่าต้นทุนการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันชนิดติดแน่นของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาเสร็จสมบูรณ์ด้วยวิธีการรักษาแบบ Closing loop mechanics เท่ากับ 36,810.04 บาทต่อราย ระยะเวลาการรักษาโดยเฉลี่ย 32.61 เดือน และแบบ Sliding mechanics เท่ากับ 35,985.30 บาทต่อราย ระยะเวลาการรักษาโดยเฉลี่ย 34.36 เดือน โดยมีระดับประสิทธิผลของวิธีการรักษาแบบ Closing loop mechanics และแบบ Sliding mechanics เท่ากับ 28.52 + 4.71 และ 26.50 + 5.60 ตามลำดับ ไม่พบความแตกต่างของประสิทธิผลการรักษาระหว่างวิธีการรักษาแบบ Closing loop mechanics และ Sliding mechanics (p = 0.21)
ข้อเสนอแนะจากการศึกษา ควรมีการนำกลยุทธ์การบริหารทรัพยากรไปใช้ในการลดต้นทุน
โดยเฉพาะทรัพยากรบุคคล ควรให้มีชั่วโมงการทำงานที่เหมาะสม รวมทั้งควรพยายามลดระยะเวลาการรักษาคนไข้เสร็จสมบูรณ์ต่อรายลง สำหรับการปรับปรุงคุณภาพการรักษา อาจารย์ทันตแพทย์ควรจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการควบคุมในส่วนของ marginal ridge และ contact point ก่อนที่จะอนุญาตให้นักศึกษาถอดเครื่องมือให้กับคนไข้
|