การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์
ศึกษาสมรรถนะของหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล
โรงพยาบาลของรัฐโดยศึกษาจากประชากรซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล โรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ ที่ดำรงตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี จำนวน 125 คน
เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า สร้างจากตัวประกอบสมรรถนะของหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลซึ่งเป็นผลจากการศึกษาของ
อังคณา สุเมธสิทธิกุล (2539) มีจำนวน 1 ชุด
แยกเป็น 2 ฉบับ
คือฉบับที่ให้หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลประเมินตนเอง
และฉบับที่ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาประเมินหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล ทั้ง 2 ฉบับมีรายละเอียดเหมือนกันเปลี่ยนแต่สรรพนามให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ตอบ
หาค่าความเที่ยงโดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค มีค่าความเที่ยงเท่ากับ
0.97 และ 0.98 ตามลำดับ
วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
วิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว
และทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่โดยวิธีของเชฟเฟ่
ผลการวิจัยพบว่า
1.
ระดับสมรรถนะของพยาบาลหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล โรงพยาบาลของรัฐ
โดยรวมอยู่ในระดับปานกลางโดยมีสมรรถนะด้านการพัฒนาบุคลากรทางการพยาบาลและด้านการอำนวยการอยู่ในระดับสูง สวนสมรรถนะด้านภาวะผู้นำด้านการวางแผนและการจัดระบบงาน
ด้านการควบคุม ด้านการตลาดบริการพยาบาลและการเปลี่ยนแปลง ด้านวิชาการ
และด้านการวางแผนกลยุทธ์ อยู่ในระดับปานกลาง
2.
การเปรียบเทียบสมรรถนะของพยาบาลหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล โรงพยาบาลของรัฐ จำแนกตามอายุประสบการณ์ในตำแหน่ง วุฒิการศึกษา และสังกัดของโรงพยาบาล
2.1 หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล โรงพยาบาลของรัฐ ที่มีอายุแตกต่างกัน มีสมรรถนะโดยรวมไม่แตกต่างกัน
แต่มีสมรรถนะรายด้าน ด้านการตลาดบริการพยาบาลและการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลที่มีอายุ 51
ปีขึ้นไป
มีสมรรถนะด้านการตลาดบริการพยาบาลและการเปลี่ยนแปลงสูงกว่าหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลที่มีอายุ
36 – 40 ปี
2.2 หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล โรงพยาบาลของรัฐ ที่มีประสบการณ์ในตำแหน่งแตกต่างกัน มีสมรรถนะโดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน
2.3 หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล โรงพยาบาลของรัฐ ที่มีวุฒิการศึกษาแตกต่างกัน มีสมรรถนะโดยรวมและรายด้าน ด้านการอำนวยการ ด้านภาวะผู้นำ
ด้านวิชาการ และด้านการวางแผนกลยุทธ์
แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
โดยหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลที่มีวุฒิการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่าปริญญาตรี มีสมรรถนะโดยรวมและสมรรถนะรายด้าน ด้านการอำนวยการ ด้านภาวะผู้นำ
และด้านการวางแผนกลยุทธ์
สูงกว่าหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลที่มีวุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรหรืออนุปริญญา
และหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลที่มีวุฒิการศึกษาปริญญาโท มีสมรรถนะด้านวิชาการสูงที่สุด
รองลงมาคือหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลที่มีวุฒิการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่าปริญญาตรีและหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลที่มีวุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรหรืออนุปริญญามีสมรรถนะด้านวิชาการน้อยที่สุด
2.4 หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล โรงพยาบาลของรัฐ ที่อยู่ในสังกัดของโรงพยาบาลแตกต่างกัน มีสมรรถนะโดยรวมไม่แตกต่างกัน แต่มีสมรรถนะรายด้าน
ด้านการตลาดบริการพยาบาลและการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
โดยคะแนนเฉลี่ยของด้านสมรรถนะด้านการตลาดบริการพยาบาลและการเปลี่ยน หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลที่อยู่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขมีค่าสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลที่อยู่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทยแลกรุงเทพมหานคร
|