การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคล สภาพแวดล้อมในการทำงาน
การได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงานของหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล
การรับรู้ความสามารถด้านการจัดการของหัวหน้าหอผู้ป่วย
และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล สภาพแวดล้อมในการทำงานและการได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงานของหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล
กับการรับรู้ความสามารถด้านการจัดการของหัวหน้าหอผู้ป่วย โรงพยาบาลศูนย์ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา คือ
หัวหน้าหอผู้ป่วยในโรงพยาบาลศูนย์
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 277
คน
เครื่องมือที่ใช้รวบรวมข้อมูล คือ
แบบสอบถามที่สอบถามเกี่ยวกับปัจจัยส่วนบุคคล สภาพแวดล้อมในการทำงาน
การได้รับการเสริมสร้างพลังอำนาจในงานของหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล
และการรับรู้ความสามารถด้านการจัดการของหัวหน้าหอผู้ป่วย ค่าความเที่ยงของแบบสอบถาม มีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของ ครอนบาค เท่ากับ
.93 .89 และ .97 ตามลำดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ
ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์การจรณ์ ค่าไค-สแควร์ และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
ผลการวิจัยพบว่า
1.
หัวหน้าหอผู้ป่วยมีการรับรู้ความสามารถด้านการจัดการโดยรวมอยู่ในระดับสูง
และเมื่อจำแนกเป็นรายด้านพบว่า การรับรู้ความสามารถด้านปฏิสัมพันธ์ การรับรู้ความสามารถด้านข้อมูลข่าวสาร
และการรับรู้ความสามารถด้านการตัดสินใจอยู่ในระดับสูงเช่นกัน
2. ปัจจัยส่วนบุคคล ด้านอายุ
ระดับการศึกษา
ประสบอการณ์ในตำแหน่ง
และการได้รับการอบรมด้านการบริหาร
ไม่มีความสัมพันธ์กับการรับรู้ความสามารถด้านการจัดการของหัวหน้าหอผู้ป่วย โดยรวมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. สภาพแวดล้อมในการทำงาน
มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการรับรู้ความสามารถด้านการจัดการของหัวหน้าหอผู้ป่วยโดยรวมอยางมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.05 (r=.65)
4.
การได้รับการเสริมสร้าพลังอำนาจในงานของหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาล
มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการรับรู้ความสามารถด้านการจัดการของหัวหน้าหอผู้ป่วยโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.05 (r=.43)
|