การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจในงานของพยาบาลประจำการก่อนและหลังการปรับใช้แนวคิดการบริหารแบบยึดวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติงานการพยาบาล กำหนดสมมติฐานการวิจัยว่า ความพึงพอใจในงานของพยาบาลประจำการ ภายหลังการปรับใช้แนวคิดการบริหารแบบยึดวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติงานการพยาบาล สูงกว่าก่อนการปรับใช้แนวคิดการบริหารแบบยึดวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติงานการพยาบาล กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลประจำการปฏิบัติงานในแผนกศัลยกรรม โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า จำนวน 21 คน
ได้จากการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบสมัครใจ
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 3
ชุด ได้แก่ โปรแกรมการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง
การปรับใช้แนวคิดการบริหารแบบยึดวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติงานการพยาบาลสำหรับพยาบาลประจำการ
คู่มือการปรับใช้แนวคิดการบริหารแบบยึดวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติงานการพยาบาลสำหรับพยาบาลประจำการ
และพยาบาลหัวหน้าหอผู้ป่วย และแบบประเมินความพึงพอใจในงานสำหรับพยาบาลประจำการ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น
ผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ค่าความเที่ยงเท่ากับ .9251
การวิจัยนี้ใช้รูปแบบการทดลองกลุ่มเดียว
ทดสอบด้วยแบบประเมินความพึงพอใจในงานของพยาบาลก่อนและหลังการทดลอง ขั้นตอนการดำเนินการวิจัย ประกอบด้วย
พยาบาลประจำการเสนอกิจกรรมที่ต้องการเน้นในการปฏิบัติงานของตนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน แล้วเขียนสัญญาการปฏิบัติในกิจกรรมนั้น เสนอต่อพยาบาลหัวหน้าหอผู้ป่วย แล้วจึงนำไปปฏิบัติ ภายใต้การสนับสนุน ชี้แนะ ให้คำปรึกษาของพยาบาลหัวหน้าหอผู้ป่วย
หลังจากปฏิบัติงานตามสัญญาการปฏิบัติงานครบครึ่งหนึ่งของระยะเวลา 3
สัปดาห์
มีการประเมินผลการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างพยาบาลประจำการและพยาบาลหัวหน้าหอผู้ป่วย
ครั้งที่ 1
เพื่อทบทวนความก้าวหน้าของการปฏิบัติงาน
และครั้งที่ 2 เมื่อพยาบาลประจำการปฏิบัติงานตามสัญญา การปฏิบัติงานครบตามเวลาในการทดลอง 3 สัปดาห์
ผลการวิจัยพบว่าความพึงพอใจในงานของพยาบาลประจำการ
หลังการปรับใช้แนวคิดการบริหารแบบยึดวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติงานการพยาบาล สูงกว่า
ก่อนการปรับใช้แนวคิดการบริหารแบบยึดวัตถุประสงค์ ในการปฏิบัติงานการพยาบาล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01
เมื่อทดสอบโดยใช้ค่าที (t-test) ผลการวิจัยสนับสนุนสมมติฐานที่ตั้งไว้
|